เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู Information and Communication Technology for Teachers

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

การดูเเลจิต

สุขภาพจิตดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

 

 คอลัมน์ AntiAging
(กรุงเทพธุรกิจ : กายใจ วันอาทิตย์ที่ 01 เมษายน พ.ศ. 2550)

         การมีสุขภาพจิตดีมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การมีสุขภาพจิตดีนั้นไม่ใช่แค่การที่ไม่เป็นโรคทางจิตแต่หมายถึงการมีความสุขในการใช้ชีวิตประจำวัน มีความสุขกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวรวมถึงการมีความสุขที่ได้พบปะกับผู้คนต่างๆ รอบตัวด้วย ถ้าเราเป็นผู้มีสุขภาพจิตดีจะส่งเสริมให้เรามีความคิดที่สร้างสรรค์ สามารถเผชิญหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้ดี
         แต่ในบางครั้งในชีวิตของเราก็อาจเจอะเจอกับความเศร้าจากเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป การตกงาน การสูญเสียทรัพย์สินที่หวงแหน ปัญหาความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับบุคคลที่รักและใกล้ชิด แต่ถ้าเรามีสุขภาพจิตดีเป็นพื้นฐานก็จะสามารถแก้ไขปัญหาหนักๆ เหล่านั้นได้ และสามารถกลับมามีความสุขอีกครั้งในระยะเวลาที่ไม่นานเกินไปนัก


กลยุทธ์ในการที่จะมีสุขภาพจิตที่แข็งแรง
1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
2. ทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่
3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน แอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงหรืองดสูบบุหรี่
4. การพักเพื่อผ่อนคลายในตอนกลางวัน โดยหลับตาและจินตนาการว่าได้ไปในสถานที่ที่เราชื่นชอบ อาจจะเป็นสวนดอกไม้ ทุ่งหญ้าสีเขียว หรือนึกถึงสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นได้มากขึ้น หายใจเข้า ออกช้าๆ การพักผ่อนในตอนกลางวันอาจจะใช้เวลาประมาณ 10 -15 นาที
5. เรียนรู้ที่จะจัดการกับความคิดสำหรับปัญหาที่เข้ามารวมถึงเรื่องกังวลใจที่เกิดขึ้น บางครั้งเราไม่สามารถที่จะหยุดความคิดความกังวลได้แต่เราสามารถเบี่ยงเบนความคิดของเราได้ ถ้าเราไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรในขณะที่เกิดปัญหานั้นๆ ก็ควรหยุดพักเพื่อที่จะมีเวลาได้คิดก็จะเป็นประโยชน์แล้วค่อยกลับไปเผชิญกับปัญหาใหม่อีกครั้ง
6. ในช่วงเวลาที่กำลังทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายอยู่ เช่น กำลังเดินเล่นพูดคุยกับเพื่องฝูงก็ควรใช้เวลาที่ผ่อนคลายนั้นอย่างเต็มที่ โดยการไม่ต้องนึกถึงเรื่องงานหรือปัญหาหนักๆ ในชีวิต การปิดโทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาที่พักผ่อนอยู่ก็เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่ง
7. การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเป็นประจำ เช่น การไปที่สถานที่ออกกำลังกายเป็นกลุ่มจะลดความรู้สึกอ้างว้างที่ต้องอยู่คนเดียวลงได้ การมีกลุ่มเพื่อนไปร่วมกิจกรรมต่างๆ นั้นเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เรารู้สึกสนุกและมีความสุขได้เป็นอย่างดี
8. มีงานอดิเรกทำตามความชอบของเรา เช่น การวาดรูป การอ่านหนังสือ การฟังเพลง ก็เป็นการผ่อนคลายร่างกายและอารมณ์ และยังได้ประโยชน์ในการบริหารสมองอีกด้วย
9. ตั้งจุดหมายในชีวิตที่เป็นไปได้ ถ้าเราสามารถบรรลุจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ก็จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองด้วย
10. สำหรับในวันที่เรารู้สึกเครียด เราอาจจะหาวิธีคลายเครียดโดยการหาเพื่อนที่ไว้ใจได้เพื่อพูดคุย
11. การรู้จักมีอารมณ์ขันและรู้จักแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ที่แฝงไว้ด้วยอารมณ์ขันให้กับเพื่อนฝูงก็จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในหมู่เพื่อนฝูงหรือบุคคลใกล้ชิดซึ่งพลอยทำให้เรารู้สึกมีความสุขไปด้วย
12. การปรนนิบัติตัวเอง เช่น การทำอาหารแสนอร่อยให้ตัวเองในวันหยุดสุดสัปดาห์ การแช่น้ำอุ่น ที่มีกลิ่นหอมเพื่ออาบน้ำ การได้พูดคุยกับเพื่อนหรือญาติที่เราไม่ได้พบเจอกันมานานแล้ว การจัดดอกไม้ ทำกิจกรรมที่เราชื่นชอบและอยากทำ
         ดังนั้นการมีสุขภาพจิตที่ดีจะทำให้เราสามารถควบคุมการแสดงออกได้อย่างเหมาะสม คิดแก้ปัญหาและตัดสินใจได้อย่างดี ทำให้เกิดความมั่นใจ ภูมิใจในตัวเอง รู้สึกดีกับตัวเอง รวมถึงทำให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเป็นไปอย่างราบรื่น และยังมีส่วนทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วย ประการสำคัญจะทำให้เราเป็นผู้ที่มองโลกในแง่บวก เป็นผู้ที่มีความสุขในชีวิตได้ง่าย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น